สวัสดีค่ะวันนี้เรามารีวิว สลายไขมันด้วยความเย็นที่ต้นขาด้านใน และด้านนอกกันค่ะ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าการสลายไขมัน หรือการทำให้ไขมันออกไปจากร่างกายเรานั้น
ก่อนอื่นต้องบอกว่าการสลายไขมัน หรือการทำให้ไขมันออกไปจากร่างกายเรานั้น
ปัจจุบันมี 2 วิธีใหญ่ๆ ที่ได้รับการรับรองจากอเมริกาว่ามีงานวิจัย ได้ผลแน่นอน
1. การดูดไขมัน liposuction ข้อดีก็คือ ไขมันออกไปเห็นเห็น แต่ข้อเสียก็มีหลายอย่าง เช่นต้องพักฟื้น มีแผลหลังทำ และหากเกิดความผิดปกติระหว่างการทำการดมยา อาจจะเสียชีวิตได้เลยนะคะ
2. การสลายไขมันแบบไม่มีแผล ซึ่งเราไม่ได้นับเครื่องนวด ที่ทำกันอยู่ ทั่วไป เครื่องเหล่านั้นต้องทำหลายครั้ง และไม่ได้ทำให้ไขมันหาย แต่ทำให้ไขมันหดเล็กลงเท่านั้น นั่นหมายความว่าหากกินเยอะขึ้นไขมันก็จะกลับมาพองใหม่
1. การดูดไขมัน liposuction ข้อดีก็คือ ไขมันออกไปเห็นเห็น แต่ข้อเสียก็มีหลายอย่าง เช่นต้องพักฟื้น มีแผลหลังทำ และหากเกิดความผิดปกติระหว่างการทำการดมยา อาจจะเสียชีวิตได้เลยนะคะ
2. การสลายไขมันแบบไม่มีแผล ซึ่งเราไม่ได้นับเครื่องนวด ที่ทำกันอยู่ ทั่วไป เครื่องเหล่านั้นต้องทำหลายครั้ง และไม่ได้ทำให้ไขมันหาย แต่ทำให้ไขมันหดเล็กลงเท่านั้น นั่นหมายความว่าหากกินเยอะขึ้นไขมันก็จะกลับมาพองใหม่
ปัจจุบันเครื่องที่มีการวิจัยว่าได้ผลในการทำให้สำนวนไขมันหายไปเหมือนกับการดูดไขมันมีอยู่ไม่กี่เครื่องในโลกนี้ค่ะ
2.1 การสลายไขมัน ด้วยความเย็น โดยเครื่องที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน คือ coolsculptingหรือzeltiq โดยเราไม่ขอพูดถึงเครื่อง Copy อื่นๆนะคะ เนื่องจากไม่มีงานวิจัย แถมยังมีรายงานเกิด การ burn หลังทำด้วยค่า
2.2 การสลายไขมันด้วย ความร้อน sculpsure
ทั้ง 2 เครื่องได้รับการรับรองมาตรฐาน จากองค์การอาหารและยาทั้งคู่ ต่างกันที่ใช้วิธีการต่างกัน จากงานวิจัยพบว่า เครื่อง coolsculpting จะสามารถสลายไขมันได้ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์หลังการทำ 1 ครั้ง แต่ในเครื่อง sculpsure ไขมันจะ สลายไป 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยคือ 11 เปอร์เซ็นต์ หลังจากอ่านงานวิจัยแล้ว ทำให้เลือกเครื่องได้ไม่ยากเลยค่ะ
2.1 การสลายไขมัน ด้วยความเย็น โดยเครื่องที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน คือ coolsculptingหรือzeltiq โดยเราไม่ขอพูดถึงเครื่อง Copy อื่นๆนะคะ เนื่องจากไม่มีงานวิจัย แถมยังมีรายงานเกิด การ burn หลังทำด้วยค่า
2.2 การสลายไขมันด้วย ความร้อน sculpsure
ทั้ง 2 เครื่องได้รับการรับรองมาตรฐาน จากองค์การอาหารและยาทั้งคู่ ต่างกันที่ใช้วิธีการต่างกัน จากงานวิจัยพบว่า เครื่อง coolsculpting จะสามารถสลายไขมันได้ 20 ถึง 30 เปอร์เซ็นต์หลังการทำ 1 ครั้ง แต่ในเครื่อง sculpsure ไขมันจะ สลายไป 10 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยคือ 11 เปอร์เซ็นต์ หลังจากอ่านงานวิจัยแล้ว ทำให้เลือกเครื่องได้ไม่ยากเลยค่ะ
สำหรับ การสลายไขมันด้วยความเย็น coolsculpting สามารถทำได้หลายบริเวณ ตั้งแต่ ใต้คางแขน นมน้อย เอวพุง และต้นขา
โดยหลังทำต้องใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 3 เดือนถึงเริ่มเห็นผล
ถ้าเรายังไม่พอใจสามารถทำซ้ำได้ แต่แนะนำให้รอผล 2-3 เดือนก่อน
วันนี้เราเลือกมาทำที่คลีนิค โพรเดอร์มา แถวรถไฟฟ้าสนามเป้าเนื่องจาก
1.เดินทางง่าย คลินิกติดรถไฟฟ้า ลงสถานีสนามเป้า ทางออก 1
2. เป็นคลินิกเฉพาะทางผิวหนัง ทำให้เรามั่นใจได้ว่า หากเกิดความผิดปกติอะไรคุณหมอจะสามารถแก้ไขปัญหาให้เราได้
3. เป็นคลินิก ที่มีทุก Application ต้องบอกว่า จากการศึกษาข้อมูล ทำให้รู้ว่าเครื่อง coolsculpting นี้จะต้อง มีการเปลี่ยนหัว Application ในทุกๆบริเวณที่ทำ และมีหลายคลินิกจะ ใช้หัวที่ไม่เหมาะสมมาทำ ในบริเวณที่ไม่เหมาะสม ทำให้รูปร่างออกมาไม่สวย
แต่ที่นี่เป็นที่เดียวในประเทศไทย ที่มีทุก Application จากการโทรสอบถามข้อมูลกับบริษัท zeltiq
4. นอกจากนั้นพนักงานที่คลินิกยังเทรนโดยตรงกับบริษัท ที่อเมริกาถึง 6 คนต่างจากที่คลินิกอื่นที่เทรนกันเองที่ประเทศไทย
หลักการทำงานของเครื่อง
จากการค้นพบของนักวิจัย และแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เซลล์ไขมัน ถูก ทำลายให้หายไปอย่างถาวรได้ โดยความเย็นที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ในขณะที่เซลล์อื่นๆของร่างกายจะไม่ถูกทำลายไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น เส้นประสาท เส้นเลือด กล้ามเนื้อ
จากการค้นพบของนักวิจัย และแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เซลล์ไขมัน ถูก ทำลายให้หายไปอย่างถาวรได้ โดยความเย็นที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ในขณะที่เซลล์อื่นๆของร่างกายจะไม่ถูกทำลายไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น เส้นประสาท เส้นเลือด กล้ามเนื้อ
จากการทดลองกว่า 10 ปี จึงสามารถผลิตเครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น coolsculpting ที่มีตัวควบคุมอุณหภูมิ ว่าได้อุณหภูมิที่เหมาะสมในการสลายไขมัน และ ยังมีตัวดีเทกอุณหภูมิที่ผิวคนไข้แบบ Real Time ทำให้ ไม่มีอันตราย ไม่มีการเบิร์นความเย็นเหมือนเครื่องอื่นๆ
ขั้นตอนการทำ
1. เริ่มต้นคือ แพทย์และ ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมิน บริเวณที่เราต้องการทำการลดไขมัน โดยสำหรับวันนี้เราต้องการทำต้นขาด้านในและต้นขาด้านนอก ซึ่งเรามีปัญหาเวลาใส่บิกินี่แล้วเห็นเนื้อปลิ้นปลิ้นไม่สวยเลยค่ะ ซึ่งขั้นตอนนี้เราว่าดูจะใช้เวลานานสุด เนื่องจากว่าต้องดูว่าสามารถทำได้หรือไม่ และทำต้องทำกี่บริเวณ กี่จุดหรือไซเคิล
2. หลังจากทำการประเมินบริเวณที่ทำเสร็จ และตกลงราคากันเป็นที่เรียบร้อยจากนั้น จะทำการ ถ่ายภาพ และวาดบริเวณที่ต้องการทำ
1. เริ่มต้นคือ แพทย์และ ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมิน บริเวณที่เราต้องการทำการลดไขมัน โดยสำหรับวันนี้เราต้องการทำต้นขาด้านในและต้นขาด้านนอก ซึ่งเรามีปัญหาเวลาใส่บิกินี่แล้วเห็นเนื้อปลิ้นปลิ้นไม่สวยเลยค่ะ ซึ่งขั้นตอนนี้เราว่าดูจะใช้เวลานานสุด เนื่องจากว่าต้องดูว่าสามารถทำได้หรือไม่ และทำต้องทำกี่บริเวณ กี่จุดหรือไซเคิล
2. หลังจากทำการประเมินบริเวณที่ทำเสร็จ และตกลงราคากันเป็นที่เรียบร้อยจากนั้น จะทำการ ถ่ายภาพ และวาดบริเวณที่ต้องการทำ
3. ทำความสะอาดผิว ปิดแผ่นเจลเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่อง หรือความเย็นสัมผัสกับผิวหนังเราโดยตรงป้องกันการเบิร์นไปอีกขั้นหนึ่ง
4. เมื่ออุปกรณ์ต่างๆถูกติดดีแล้ว จะทำการปิด applicationไปที่ผิวหนังของเรา โดยในแต่ละ application ลักษณะการติด จะแตกต่างกัน เช่น หน้าท้องก็จะถูกดูดขึ้นมา แต่ถ้าเป็น application ของตัวต้นขาด้านนอก หรือ Smooth Pro ตัวนี้จะเป็นเพียงแผ่นแปะเข้าไปที่ต้นขาค่ะ
แอพพลิเคชั่นนี้ใช้เวลาทำ 75 นาที จากรุ่นเก่า coolsmooth ใช้เวลา 150 นาที จะเห็นว่าประหยัดเวลาไปอีกเยอะเลย
ระหว่างทำคือนอนเฉยๆ เล่นโทรศัพท์ ดูทีวีได้ค่่า
5. เมื่อครบเวลา 75 นาทีเครื่องจะหยุดโดยทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่ จะมาทำความสะอาดบริเวณผิวและทำการนวดประมาณ 2 นาทีโดยการนวดนี้เป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะจะช่วยทำให้ไขมันแตกตัวได้ดีขึ้น และทำให้ไขมันลดได้อย่างมากขึ้น
หลังจากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ ตามปกติ
ประมาณวันที่ 3 หลังทำจะเริ่มมีอาการชาและปวดบ้างเป็นอาการปกติ โดยจะหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์
และจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงใน 1 ถึง 3 เดือน โดยทั่วไปแนะนำให้ออกกำลังกายและควบคุมอาหารร่วมด้วยเพื่อจะได้เห็นผลที่ดีขึ้น
หากสนใจสามารถติดต่อ โพรเดอร์มาคลินิก รถไฟฟ้าสนามเป้าทางออกที่ 1
โทร 088-0410888 LINE:prodermaclinics
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น